วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2559

พักหรูทานหรูที่ Hotel Muse Bangkok Soi Langsuan

พักหรูทานหรูที่ Hotel Muse Bangkok Soi Langsuan


สวัสดีค่ะ ^^ พอดีมีโอกาสได้ไปพักที่ Hotel Muse มาค่ะ ประทับใจกับดีไซน์ของโรงแรมมากระดับ10 ชอบตั้งแต่เดินเข้าไปยันขึ้นไปชมห้องพักเลยค่ะ
คือโดยส่วนตัวเป็นคนชอบโรงแรมสไตล์มืดๆคลาสิคแบบทันสมัยอยู่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นโรงแรมแบบที่ชอบเลยค่ะ คิดมานานแล้วว่าอยากลองไปพักที่นี่  วันนี้มีโอกาสเลยลองนำมาฝากกันค่ะ

โรงแรมตั้งอยู่บนถนนหลังสวนค่ะ สมารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานีชิดลมได้ เดินข้าไปในซอยเล็กน้อยค่ะ โรงแรมตั้งอยู่ทางซ้ายมือ พอเดินเข้าไปก็จะเจอกับบรรยากาศแบบนี้ค่ะ


อันนี้ต้องขออนุญาตนำรูปมาจากเว็บไซต์โรงแรมน้ะค้ะ เพราะตอนไปก็รีบเช็คอินเลย เลยไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูป อีกอย่างก็เขินพนักงานด้วยค่ะ แต่จะบอกว่าของจริงสวยไม่แพ้ในรูปเลยค่ะ  
พอเช็คอินเสร็จป๊าบบ ก็ไปห้องพักกันเลยซิค่ะ จะรออะไร อยากเห็นมากว่าห้องจะเป็นยังไง วันที่ไปได้พักชั้น 9 ค่ะ วิวที่เห็นก็ต้องบอกตรงๆเลยว่าไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เพราะได้วิวก่อสร้างของตึกข้าง TT (แอบเสียใจเล็กน้อย) และยังไม่สูงเท่าที่ควร แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะห้องพักสวยมาก  ห้องเป็น Type Jatu Deluxe ค่ะ เป็น Room type แรก ของโรงแรม 



วางของปู๊บบนั่งพักซักพักแล้วก็ไปตีฟองแช่อ่างกันหน่อยดีกว่าค่ะ  



แช่น้ำจนสบายใจแล้วก็ขึ้นไปเดินสำรวจกันหน่อยดีกว่า ขึ้นไปชั้น 19 กันค่ะ จะมีสระว่ายน้ำ ฟิตเนสเล็กๆ และก็ห้องอาหารที่เราจะขึ้นไปทานดินเนอร์กันในคืนนี้ 


เดินสำรวจอย่างเดียวจริงๆค่ะ ไม่ได้เล่นอะไรซักอย่างเพราะว่าขี้เกียจจริงๆค่ะ เลยเลือกกลับมาพักอยู่ที่ห้องดูทีวีแล้วรอไปทานมื้อค่ำดีกว่า

และแล้วก็มาถึงมื้อค่ำที่เรารอคอยแล้วค่ะ ดินเนอร์สุดหรูที่ Babette’s The Steakhouse ชั้น 19
 ไปถึงพนักงานจะถามว่ามากี่ท่าน พอเราบอกว่ามาสองท่านเค้าก็เลยจัดมุมสวยมาให้เลยค่ะ 


ราคาอาหารก็ตามบรรยากาศเลยค่ะ ก็เลือกทานตามอัธยาศัยเลยน้ะค้ะ แต่สเต๊ปแรกเลยพนักงานจะเข้ามาถามค่ะ ว่าต้องการดื่มน้ำอะไร เราก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องค่ะ จากใจเลย เลยถามเค้าว่าส่วนใหญ่ที่มีลูกค้ามาทานเค้าสั่งอะไรค่ะ พนักงานเลยจัดสิ่งนี้มาเลยค่ะ ….

น่าตาคุ้นเคยมากค่ะเพราะเห็นในวิลล่ามาร์เกตบ่อยๆแต่ไม่เคยซื้อลองค่ะ เพราะว่ามันแพง  555 พอนำมาเสริฟเค้าก็จะถามว่าต้องการมะนาวหรือเลม่อนค่ะ เราก็เอาเลม่อนเลยจ้า คิดว่าน่าจะอร่อยกว่า สรุปคือรสชาติก็เหมือนมะนาวโซดาค่ะ จบ มาถึงเรื่องอาหารค่ะ วันนั้นสั่งจานนี้มาค่ะ เป็นแซลมอนสเต๊ก กันหมูสามชั้น จำชื่อไม่ได้เหมือนกันค่ะ เพราะเรียกยากมาก อารมเหมือนหมูกรอบแต่อร่อยมาก คือกรอบนอกแต่นุ่มในสุดๆ  


อ๋อแล้ว  ก่อนน่าจะนำสเต๊กมาเสริฟ เค้าจะเสริฟขนมปังก่อนด้วย อร่อยมากเลยค่ะ ทาเนยฟินสุดๆ
ปล.ไม่ได้สั่งไวน์น้ะค้ะ เพราะทานไม่เป็นจริมๆ
สรุปมื้อนี้ใช้ได้ค่ะ ทานตามกำลัง ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอลที่นี่เพราะว่าเราจะไปต่อกันที่ Roof Top กันค่ะ ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยของหวานที่เค้าจะเข็ญมาเสริฟฟรีๆ นั้นก็คือรถเข็ญเยลลี่หลากชนิดที่ให้เลือกแบบเต็มไปหมดและก็สามารถเติมได้เรื่อยๆเลยค่ะ น่ารักมาก ค่ะ พนักงานที่นี่ก็อัธยาศัยดีแบบสุดๆ โยรวมคือประทับใจค่ะ
ไปค่ะ ไปกันต่อ  ที่ speakeasy rooftop bar ชั้น 24 – 25
เลือกนั่งชั้น 25 ค่ะ เพราะวันนั้นชั้น 24 คือคนเย็อะมากกกกกก

วิวสวยมากจริงๆค่ะ  สั่งเบียร์จิบเบาๆคือดีย์มาก

ในส่วนอาหารเช้าของวันต่อมาก็ขึ้นมาทานกันที่เดิมค่ะ ที่ชั้น19  ที่ห้องอหาร Babette’s The Steakhouse คือเช้าเค้าก็จะทานกันที่นี่ ส่วนกลางคืนเค้าก็จะแปลงร่างเป็นห้องอาหารดินเนอร์อย่างที่เห็นในรีวิวค่ะ
อาหารเช้าก็เหมือนตามโรงแรมทั่วไปเลยค่ะ ก็จะมีเมนูไข่ แฮม ขนมปัง กาแฟ ข้าวต้ม ข้าวผัด บลาๆๆ แต่คุณภาพของเค้าดีค่ะ 



แล้วก็กลับมาที่ห้องนั่งพัก เอนตัวแปร๊บนึง อาบน้ำ เก็บของเตรียมตัวเช็คเอาท์ ด้วยจิตใจที่แจ่มใสและประทับกับที่นี่มากค่ะ
ยังไงลองไปสัมผัสกับบรรยากาศที่นี่กันได้น้ะค้ะ รับรองว่าจะประทับใจคะ ถ้ารีวิวผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยน้ะค้ะ ^^ ขอบคุณค้า ...... 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น