รถไฟ JR ( Incentive trip "Osaka - JAPAN" episode 4 )

สวัสดีครับ  หลังจากที่ได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 5 วัน 4 คืน หลักๆ การเดินทางในญี่ปุ่นนั้น เราใช้ รถไฟเป็นส่วนใหญ่ และ คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็ใช้ รถไฟในการเดินทางในชีวิตประจำวัน เพราะมีความสะดวกสบาย  ครอบคลุมทั้งเมือง รวดเร็ว และที่สำคัญ ตรงเวลามากครับๆ  แต่สำหรับนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางไป ท่องเที่ยว ควรศึกษาหาข้อมูลของ ตั๋วรถไฟ เส้นทาง ให้ดีก่อนการเดินทางนะครับ วันนี้ผมจึงมารีวิว เกี่ยวกับ รถไฟ JR นะครับ  มีทั้งข้อมูลที่ได้เดินทางเอง และ หาเพิ่มเติมจาก อินเตอร์เน็ต ด้วยครับ

รถไฟจาก สนามบินไป ย่านนัมบะครับ ดูทันสมัย สวยงาม

การโดยสารรถไฟถือเป็นการคมนาคมหลักในประเทศญี่ปุ่น ระบบการรถไฟที่ญี่ปุ่นทันสมัยมาก ให้บริการครอบคลุมเกือบทุกจุดหมายปลายทางทั่วประเทศ ดังนั้นการเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆภายในประเทศญี่ปุ่นจึงไม่ใช่เรื่องยาก

อย่างไรก็ตาม ก่อนอื่นเราควรทำความเข้าใจกับระบบรถไฟที่ญี่ปุ่นก่อน รถไฟในญี่ปุ่นแบ่งเป็น 3 ระบบหลักๆ ได้แก่

1.             รถไฟ JR เน้นการเดินทางข้ามภูมิภาค ข้ามจังหวัด และการเดินทางในตัวเมือง

2.             รถไฟใต้ดิน เน้นการเดินทางในเมืองนั้นๆ

3.             รถไฟเอกชนต่างๆ วิ่งเฉพาะบริเวณนั้นๆ

ในครั้งนี้ขออธิบายเกี่ยวกับรถไฟ JR ในข้อ 1. เท่านั้น

รถไฟ JR เน้นการเดินทางระหว่างเมือง

รถไฟ JR ครอบคลุมบริเวณทั่วประเทศญี่ปุ่น

กลุ่มภูมิภาคของรถไฟ JR แบ่งแยกตามแต่ละภูมิภาค

JR Hokkaido	เส้นทางบนเกาะฮอกไกโด
JR East	เส้นทางในโตเกียว บริเวณใกล้เคียงจนถึงภูมิภาคโทโฮคุ
JR Central	เส้นทางภูมิภาคจูบุ
JR West	เส้นทางภูมิภาคคันไช
JR Shikoku	เส้นทางบนเกาะชิโกคุ
JR Kyushu	เส้นทางบนเกาะคิวชู

 ตารางแบ่งระดับการให้บริการของรถไฟ JR

แต่ละภูมิภาคและแต่ล่ะสายรถไฟมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป แต่หลักๆมีหลักเกณฑ์การแบ่งดังนี้ การเข้าใจประเภทรถไฟจะทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินในเลือกใช้บริการได้ตรงตามความต้องการ ( ข้อมูลจากอินเตอรเน็ต ครับ )

ระดับ(ภาษาญี่ปุ่น)	ประเภท	จุดเด่น
Super Express (Shinkansen)	รถไฟชินคันเชน หรือ รถไฟหัวกระสุน	รถไฟความเร็วสูงที่สุด มีชื่อเรียกตามเส้นทาง มีรางวิ่งพิเศษเฉพาะ มี Green Car / Ordinary Car ราคาสูง
Limited Express (Tokkyu)	รถไฟด่วนพิเศษ	รถไฟความเร็วสูง จอดเฉพาะสถานีหลัก เอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ดีไซน์ รูปทรง มี Green Car / Ordinary Car ราคาค่อนข้างสูง
Express (Kyuko)	รถไฟด่วน	จอดเฉพาะสถานีหลัก จอดรับ ส่ง น้อยมาก เน้นมุ่งไปที่จุดหมายปลายทาง ราคาปานกลาง
Rapid Train (Kaisoku)	รถไฟเร็ว	จอดเกือบทุกสถานี มีแค่บางสถานีไม่จอด ส่วนใหญ่วิ่งออกไปสู่ชานเมือง ราคาถูก
Local Train (Futsu)	รถไฟท้องถิ่น	รถไฟวิ่งช้าที่สุด จอดทุกสถานี ส่วนใหญ่วิ่งบริการในเมือง ราคาถูกที่สุด

·         ข้อมูลการเดินทางในโอซาก้า โดยรถไฟ

จากสนามบินคันไซ เดินทางไปที่พัก ย่าน นัมบะครับ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

*หลังจากนอนพัก เช้าวันที่ 2 เราก็ เดินทางไป  โกเบครับ ซึ่งที่เที่ยวหลังๆ ที่แพลนไว้ก็ ปราสาท ฮิเมจิ , สะพานอะคาชิ-ไคเกียว และ แวะกินเนื้อโกเบ ^^

เดินทางในโอซาก้า วันแรกจากโซน นัมบะ ที่พักไป โกเบ Kobe  โดยใช้บัตร Kansai 1 day pass  นะครับ

LET’s GO

พอถึงสถานี จะมีตาราง บอกเวลาที่รถไฟจะมา ซึ่งตรงเวลามากๆ ครับ 

นั่งชมวิวไปเรื่อยๆ ประมาณ 50 นาที / บนรถไฟ คนญี่ปุ่นจะเงียบมากครับ 

ถึงแล้วครับ สะพาน อะคาชิ-ไคเกียว สวยมาก แต่วันไปฝนตกครับ

ที่นั่งจะมีแบบหันหน้าเข้าหากันครับ  ส่วนใหญ่รถไฟ จะไม่ค่อยแน่นมากเหมือนบ้านเรา น่าจะเป็นเพราะ มีรถไฟหลายสายหลายเที่ยวต่อวัน  /นั่งรถไฟที่ญี่ปุ่นเป็นอะไรที่ประทับใจมากครับ 

วันที่ 2 ครับ เดินทางไปในตัวโอซาก้าครับ โดยใช้ Osaka 1 day pass 

บัตรนี่คุ้มค่ามากๆครับ ใช้เดินทางในโอซาก้าทั้งวันเลย  เก็บรักษาบัตรดีๆ นะครับ

ที่เที่ยวในโอซาก้าก็เยอะมากๆ 

ปราสาทโอซาก้า

DONTONBURI

ตอนเย็นๆสวยมากครับ ต่างชาติก็ เยอะครับ เดินทางด้วยรถไฟ สะด๊วกสะดวก

สำหรับเพื่อนๆ ที่จะเดินทางไปเที่ยวโอซาก้านะครับ จำเป็นต้องวางแผน ล่วงหน้า ว่า วันที่ 1 2  3 จะไปไหนบ้าง เพราะในบัตรที่ซื้อไมว่าจะเป็น KANSAI  หรือ  OSAKA  จะต้องกำหนดวันเดินทาง และใช้ได้ ภายในวันนั้นๆ ครับ หาก สูญหาย ต้องซื้อใหม่อย่างเดียว ครับ

ส่วนตั๋วรถไฟ ที่ใช้เดินทาง จาก สนามบิน ไป ตัวเมือง ที่พัก ตามย่านต่างๆ  ก็จะกำหนดเวลา เดินรถเช่น รอบเวลา 16.30 ก็ต้องพร้อมและเดินทาง ตรงเวลาเลย หากว่า ไม่ทันหรือ ต้องการเปลี่ยนแปลงก็ สามารถ ไปเปลี่ยนตั๋วได้ก่อนเวลา ที่จำหน่ายตั๋วนะครับ พนักงาน สามารถ สื่อสารภาษาอังกฤษ ได้ครับ 

(ย่านนัมบะ ของกินอร่อยเยอะๆ ครับ)

ขอจบการรีวิวแบบสั้นๆ ไว้แค่นี้ครับ  Enjoy your trip ^^