ตอนมังกี้พาเที่ยว.. พระราชวังชางด๊กและสวนลับ

พระราชวังชางด๊กและสวนลับ

พระราชวังชางด๊ก เป็นพระราชวังที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากพระราชวังเคียงบก ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1405 แล้วเสร็จเมื่อ ค.ศ. 1412 ในส่วนของสระน้ำและสวนลับนั้นได้ถูกต่อเติมขึ้นมาภายหลัง สวนลับนับได้ว่าเป็นสถานที่หลบภัยและพักผ่อนหย่อนใจของราชวงศ์ จากความวุ่นวายภายนอกและการรุกรานจากญี่ปุ่น พระราชวังแห่งนี้มีเรื่องราวที่น่าเศร้าเกิดขึ้นมากมาย ถูกเผาทำลายบ่อยครั้งทั้งจากญี่ปุ่นและจากความไม่สงบภายในประเทศเองก็ตาม

วันและเวลาให้บริการ

ปิดทุกวันจันทร์

พระราชวังชางด๊ก

09:00 ~ 18:00 น.  ในเดือน กุมภาพันธ์ ~ พฤษภาคม และ กันยายน ~ ตุลาคม
09:00 ~ 18:30 น.  ในเดือน มิถุนายน ~ สิงหาคม
09:00 ~ 17:30 น.  ในเดือน พฤศจิกายน ~ มกราคม

สวนลับ

10:00 ~ 17:30 น.  ในเดือน มีนาคม ~ พฤษภาคม และ กันยายน ~ ตุลาคม
10:00 ~ 18:00 น.  ในเดือน มิถุนายน ~ สิงหาคม
10:00 ~ 16:30 น.  ในเดือน พฤศจิกายน ~ มกราคม
10:00 ~ 17:00 น.  ในเดือน กุมภาพันธ์

ค่าเข้าชม

พระราชวังชางด๊ก

ฟรี สำหรับ เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี, ผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้ใส่ชุดฮันบก(เฉพาะในส่วนวัง)

บุคคลอายุระหว่าง 7 ~ 18 ปี ราคา 1,500 วอน
บุคคลอายุระหว่าง 19 ~ 64 ปี ราคา 3,000 วอน

สวนลับ

บุคคลอายุระหว่าง 7 ~ 18 ปี ราคา 4,000 วอน
บุคคลอายุระหว่าง 19 ~ 64 ปี ราคา 8,000 วอน
บุคคลอายุ 65 ปีขึ้นไป ราคา 5,000 วอน

 

เนื่องจากสวนลับมีกฏข้อบังคับให้เข้าพร้อมไกด์เท่านั้น โดยมีตารางไกด์ภาษาอังกฤษอังนี้ 11:30, 13:30, 14:30 และ 15:30 ในแต่ละรอบเปิดรับจองผ่านหน้าเว็บไซต์ล่วงหน้าเพียงรอบละ 50 ท่าน และเปิดรับผู้ที่ซื้อหน้างานอีก 50 ท่านเท่านั้น ถ้าเต็มในรอบนั้น ๆ ก็ต้องรอรอบถัดไปเลยนะจ้ะ เพราะฉนั้นแนะนำว่าให้จองไปก่อนก็ดีค่ะ แต่ถ้าจองไม่ได้ก็รีบไปซื้อบัตรตามรอบไกด์ไว้ก่อนค่ะ ดังนั้น เราจะไปชมภาพในสวนลับกันก่อนค่ะ

ทางเข้าสวนลับ อยู่ติดกับทางเข้าพระราชวังชางเกียงเลยค่ะ

เค้าให้เข้ากับเป็นรอบ ๆ ตามไกด์ไปเป็นกลุ่ม ๆ แบบนี้นะคะ

คำเตือน : โปรดอย่าเดินภายในสวนลับตัวตนเองโดยไม่มีไกด์นำทางนะคะ เพราะด้านในมีส่วนที่เป็นเนินเขา อาจเกิดอันตรายและหลงได้ค่ะ

คำเตือน : ห้ามสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้และเสียหาย ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปรับประทาน ห้ามตั้งขากล้อง

คำแนะนำ : ไม่แนะนำให้นำรถเข็นเด็ก หรือรถเข็นผู้พิการเข้า เนื่องจากพื้นที่ด้านในเป็นเนินสูง
 

ทางเข้าสัมผัสได้ถึงความร่มรื่น

มุมนี้ถ้าสังเกตุดีดีจะเห็นบ่อยในซีรี่ส์หลายเรื่องเลยทีเดียวค่ะ

ที่นี่มีเรือนพักอยู่หลายจุดเลยค่ะ มีให้เห็นเป็นระยะ เหมือนเป็นหมู่บ้านที่แต่ละคนจะมีบ้านห่าง ๆ กันเลยค่ะ

 

ศาลาริมน้ำ ร่มรื่นมากเลยค่ะ

ที่ตั้งโคมไฟให้ความสว่างในยามค่ำคืน

 

ศาลาบนเนินเขาสูง(ต้องขึ้นไปสูงพอตัว) และธารน้ำธรรมชาติที่ถูกตกแต่งด้วยศิลปะในสมัยนั้นและกลมกลืนไปกับธรรมชาติ

 

หลังจากชมความงามและความร่มรื่นเงียบสงบของสวนลับแล้ว ก็ออกไปชมวังด้านนอกกันค่ะ

 

ความในใจ เราเองก็ไม่สามารถแยกศิลปะความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละวังได้เหมือนกัน ขออภัยในความไม่ประสีประสาของเราด้วย มีเพียงแต่ที่ประทับนี้ ที่เราเองสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนถึงความแตกต่าง

 

เราชอบต้นพลับนี้เป็นพิเศษ เราไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเจ้าต้นนี้ปลูกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพียงแต่จินตนาการตามว่า ถ้าเป็นเด็ก ๆ ในวัง วิ่งเล่นกันแล้วหิว ก็คงมาแอบเก็บพลับทานกัน น่าจะเป็นภาพที่อบอุ่นใจน่ารักดี (ความมโนของเราเอง)

เรือนเล็กเรือนน้อยที่กระจายตัวอยู่ทั่วภายในรั้ววัง

 

ภูมิปัญญาอันชาญฉลาดของคนสมัยก่อน ที่นำกระดาษไขมาใช้ในการต้านลมหนาวที่พัดผ่านเข้ามา แถมตกแต่งด้วยไม้ฉลุอันงดงาม